Review : Xiaomi Mi9 เรือธงประสิทธิภาพสุด ในราคาค่าตัวไม่ถึง 17,000 บาท !!
Review : Xiaomi Mi9 เรือธงประสิทธิภาพสุด ในราคาค่าตัวไม่ถึง 17,000 บาท !!
สวัสดีเพื่อน ๆ TechXcite ทุกท่าน กลับมาพบกับบทความรีวิวมือถือรุ่นใหม่ ๆ กับ เฮียแม็พ. TechXcite อีกเช่นเคย วันนี้เราอยู่กับสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นล่าสุดของ Xiaomi ที่เพิ่งจะเปิดตัวไปสด ๆ ร้อน ๆ กับ Xiaomi Mi9 นั่นเองซีรีส์เรือธงแบบนี้ก็มีชื่อชั้นในเรื่องของสเปคที่จัดเต็ม ดีไซน์ที่เรียบหรูน่าสนใจ กล้องที่ครบครันพร้อมถ่ายทุกสถานการณ์ แต่ที่สำคัญที่สุดก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของราคาและโปรโมชั่นนี่แหละ เอ้า ! เกริ่นมาขนาดนี้แล้ว อย่ารอช้าเลยดีกว่ามาอ่านรีวิวฉบับเต็มของ Xiaomi Mi9 กันเลยดีกว่าว่าเด็ดแค่ไหน :D
เริ่มที่กล่องกันก่อนเลย
ก่อนจะไปที่ตัวเครื่องมาเริ่มที่การแกะกล่องกันก่อนเลย สำหรับ Mi9 จะมาพร้อมกับกล่องทรงมาตรฐาน มีการเล่นเฉดสีรุ้งที่ตัวกล่อง เวลาบิดมุมต่าง ๆ จะมีความแวววาวเล็กน้อย ด้านหน้ากล่องมีเลข 9 อยู่เด่น ๆ ไม่ผิดรุ่นแน่ ๆ
ตัวเครื่องที่เราได้มานั้นเป็นเครื่อง Global Version แล้ว ก็หมายความว่าคือเครื่องศูนย์ไทยเลย มาเช็คอุปกรณ์ที่ให้มากันเลยว่ามีอะไรบ้างครับ
แกะเช็คเอาออกมาวางเรียงกันให้หมดก็จะมีด้วยกัน 6 อย่างดังนี้ครับ
- ตัวเครื่อง Mi9
- คู่มือการใช้งาน
- สาย Dongle แปลง 3.5 มม.เป็น Type-C
- สาย USB Type-C
- อแดปเตอร์รองรับ QC 4
- เข็มจิ้มถาดซิม
- เคส
ก็ถือว่าให้มาครบตามสไตล์ของ Xiaomi ตัวหูฟังไม่ได้มีแถมมาเป็นปกติอยู่แล้วเนาะ เคสที่ให้มาจะเป็นสีแบบซิลิโคนสีขุ่น ๆ หน่อย ครับประกอบร่างแล้วก็จะมีหน้าตาประมาณนี้เลย
ยลโฉมพระเอกของเรา !
ได้เวลามาชมตัวเครื่องชัด ๆ กันแล้วครับ สำหรับ Mi9 จะมาพร้อมกับดีไซน์ทรงคุ้นตาของมาตรฐาน #มือถือ2019 ด้วยหน้าจอขนาดใหญ่เต็มพื้นที่ด้านหน้า พร้อมติ่ง Dot Drop เล็ก ๆ ที่ด้านบน ใช้หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.39 นิ้ว ครอบมาด้วยกระจก Gorilla Glass 6 เพิ่มความแข็งแรงทนทานได้เป็นอย่างดี
การแสดงผลก็ทำได้ดีไม่แพ้กันเพราะได้หน้าจอ AMOLED ความละเอียด FHD+ ให้สีสันที่สวยสด และมีค่าความสว่างสูงสุดที่ 600nit มีค่าสี NTSC แม่นยำถึง 103.8% รองรับการแสดงผลแบบ HDR และมาในอัตราส่วนหน้าจอแบบ 19.5:9
ขอบหน้าจอต่าง ๆ ทำได้บางเฉียบดีทีเดียว ทำให้ตัวเครื่องดูไม่ใหญ่จนเกินไป ถึงแม้ว่าตัวหน้าจอจะให้มาใหญ่ถึง 6.39 นิ้วก็ตาม ขนาดตัวเครื่องเรียกว่าบางและเบาใช้ได้เลย ตัวเครื่องดีไซน์แบบหลักโค้งให้จับถือได้ถนัดมือ ด้วยความบางเพียง 7.61 มม. และเบาเพียง 173 กรัมเท่านั้น
เหนือหน้าจอจะเห็นว่ามีกล้องหน้าอยู่ที่ติ่ง Dot Drop ด้านบนและแถบลำโพงยาวพาดอยู่เหนือสุด ส่วนตรงมุมบนนี้ยังมีไฟ LED แจ้งเตือนซ่อนอยู่ด้วย ถือว่าดีมาก ๆ เพราะปกติเรามักจะไม่ค่อยเห็นไฟแจ้งเตือนแบบนี้แล้วบนสมาร์ทโฟนจอเต็มในยุคนี้เนาะ
ขอบจอด้านล่างก็บางเฉียบเอามาก ๆ เมื่อเทียบกับรอบ ๆ ตัวเครื่องแบบนี้ ภายในหน้าจอมีซ่อนเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือเข้าไปด้วยนาจา ล้ำอีกแล้ว
กรอบเครื่องจะเป็นโลหะผิวมัน มีความโค้งเล็ก ๆ ให้จับถือได้สะดวกและไม่บาดมือ เนียนเรียบไปกับตัวเครื่องได้เป็นอย่างดี
ปุ่มกดหลักยังคงอยู่ที่ด้านขวามือของตัวเครื่อง เริ่มเป็นปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงแถบยาว ๆ และปุ่ม Power อยู่ถัดลงมา
ส่วนด้านซ้ายมือมีการเพิ่มปุ่ม Google Assistant เข้ามา ให้เราได้เรียกผู้ช่วยออกมาได้ทันทีทันใดที่ตรงนี้เลย หรือถ้าอยากจะเปลี่ยนปุ่มเป็นการใช้งานอย่างอื่นเช่น เปิดกล้องเพื่อเซลฟี่, เปิดไฟฉาย หรือเปิดโหมด Reading mode ก็ได้เช่นกันครับ
ช่องใส่ซิมก็จะอยู่ที่มุมซ้ายมือนี่เช่นกันครับ โดยถาดซิมจะเป็นแบบ 2 ซิม รองรับ 4G ทั้ง 2 ซิม อย่างที่ทราบกันดีซีรีส์เรือธงของ Xiaomi ไม่สามารถเพิ่ม micro-SD ได้เหมือนเคย
พอร์ตการเชื่อมต่ออยู่ที่ด้านล่างตัวเครื่องครับเป็น USB Type-C และมีลำโพงหลักของตัวเครื่องและไมโครโฟนอยู่ที่ด้านล่างนี้ (ฝั่งซ้ายไมค์ ฝั่งขวาลำโพง) ไม่ใช่ลำโพงคู่นาจา
ส่วนด้านบนมีไมโครโฟนตัวที่ 2 สำหรับตัดเสียงรบกวนและยังมี IR Blaster ไว้ใช้งานเป็นรีโมทความบคุมอุปกรณ์ต่าง ๆ อยู่ครับ
พลิกกลับมาดูที่ด้านหลังเราจะเห็นดีไซน์ฝาหลังโค้งอย่างที่บอกไปครับ ตัวกระจกที่ด้านหลังนั้นโค้งสวยทั้ง 4 มุม มีความสะท้อนแวววาวเล็ก ๆ ด้วย สีที่เราได้มารีวิวเป็นสี Piano Black สะท้อนได้ประหนึ่งกระจกเลยทีเดียว
ตำแหน่งกล้องยังคงวางไว้ที่มุมซ้ายบนของด้านหลัง รอบนี้อัปเกรดขึ้นมาเป็นกล้อง 3 ตัวเลยทีเดียว เรียงกันลงมาสวย ๆ พร้อมกับกรอบสี Halo Ring สวย ๆ ที่ตัวเลน Tele (ตัวบนสุด) อีกด้วย
ด้วยความบางของตัวเครื่องกรอบเลนส์เลยแอบนูนขึ้นมาจากตัวเครื่องพอสมควร แต่ไม่ต้องห่วงว่าตัวกรอบจะเป็นรอยได้ง่ายเพราะมีการครอบด้วยกระจกแบบแซฟไฟร์ ที่ทนทานสูง แต่ตรงนี้ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร เพราะถ้าใส่เคสเข้าไปก็ช่วยเพิ่มระดับให้สมดุลขึ้นได้ครับ
รวม ๆ แล้วดีไซน์ของ Mi9 ก็ถือว่าทำได้ดีทีเดียว จุดที่ชอบจริง ๆ คงเป็นเรื่องความโค้งของฝาหลังและความบางที่ทำได้ดี ถึงแม้จะดูบางแต่ก็แน่นหนาจับได้อย่างถนัดมือ และดูสวยพรีเมี่ยมมาก ๆ ครับ
สำหรับสีที่วางจำหน่ายในบ้านเราจะมีทั้งหมด 2 สีคือ Piano Black และ Ocean Blue ครับ โดย 2 สีหลังจะมีการทำเฉดสีที่ด้านหลังสะท้อนสวยเหมือนโฮโลแกรมด้วย แปลกตาดีครับ
สเปค Xiaomi Mi9
- หน้าจอ AMOLED 6.39 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (19.5:9)
- ซีพียู Snapdragon 855 Octa-core 2.84GHz
- จีพียู Adreno 640
- แรม 6GB
- ความจุ 128GB
- แบตเตอรี่ 3300 mAh
- รองรับชาร์จไว QC 4.0 (27W)
- รองรับชาร์จไวแบบไร้สาย 20W
- กล้องหน้า 20 ล้านพิกเซล f/2.0
- กล้องหลัง 3 ตัว 48 + 16 + 12 ล้านพิกเซล f/1.8 + f/2.2 + f/2.2
- รองรับระบบสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ
- รองรับระบบสแกนใบหน้า
- รองรับ 2 ซิม
- รัน Android 9.0 Pie ครอบด้วย MIUI10 อ่านต่อ
Post a Comment