Review : OPPO F11 Pro สมาร์ทโฟนดีไซน์สวยที่จะมาเปลี่ยนภาพจำของแค่เซลฟี่สวย ด้วย Portrait ชั้นยอดในราคาหมื่นนิด ๆ !!
Review : OPPO F11 Pro สมาร์ทโฟนดีไซน์สวยที่จะมาเปลี่ยนภาพจำของแค่เซลฟี่สวย ด้วย Portrait ชั้นยอดในราคาหมื่นนิด ๆ !!
สวัสดีเพื่อน ๆ TechXcite ทุกท่าน กลับมาพบกับบทความรีวิวมือถือรุ่นใหม่ ๆ กับ เฮียแม็พ. TechXcite อีกเช่นเคย วันนี้เราอยู่กับสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดของ OPPO ที่กำลังมาแรงมาก ๆ กับ OPPO F11 Pro นั่นเอง ! ถือว่าเป็นซีรีส์ F รุ่นต้นปีที่เปิดตัวมาได้ครบครันสุด ๆ ทั้งในเรื่องของหน้าจอ Panoramic Screen แบบใหม่เต็มตา, กล้องหน้า Rising Camera ซ่อนยกได้อย่างล้ำ, ระบบชาร์จไว VOOC 3.0 เวอร์ชั่นใหม่, บอดี้ไล่เฉดสีแบบสามมิติ Triple Color Gradient และที่สำคัญยังมีกล้องหลังคู่ความละเอียดสูง 48 ล้านพิกเซลถ่ายภาพคนสวยอลังการ ดั่งสโลแกน "Portrait สวย แม้แสงน้อย" โอ้โหฟีเจอร์เด่นจัดเต็มแบบนี้ อย่ารอช้ามาอ่านรีวิวฉบับเต็มของ OPPO F11 Pro กันเลยดีกว่าครับ :D
แกะกล่องกันก่อนแบบด่วน ๆ
เริ่มต้นด้วยการแกะกล่องเช็คของข้างในกันก่อน หน้ากล่องยังคงเป็นสไตล์เดิมกับ F Series ที่ผ่านมาครับ มีชื่อรุ่นเด่น ๆ พร้อมภาพประกอบตัวเครื่องโชว์อย่างครบครัน พร้อมรุ่นความจุที่มุมซ้ายบนสีทอง ๆ นั่นแหละครับ ซึ่งรุ่นที่วางจำหน่ายในไทยรอบนี้จะมีความจุเดียวคือ 6GB + 64GB ครับผม
อุปกรณ์ภายในทั้งหมดเมื่อหยิบออกมากองรวมแล้วจะมีทั้งสิ้น 7 อย่างดังนี้ครับ
- ตัวเครื่อง F11 Pro
- คู่มือการใช้งาน
- เคสซิลิโคน
- สาย micro-USB
- อแดปเตอร์ VOOC 3.0
- หูฟัง (แจ็ค 3.5 มม.)
- เข็มจิ้มถาดซิม
ดีไซน์ใหม่ หน้าจอ Panoramic Screen เต็มตากว่าเคย !
มาเข้าเรื่องของเราเลยดีกว่า สำหรับ OPPO F11 Pro รอบนี้ OPPO มีการปรับเปลี่ยนดีไซน์ไปอีกครั้ง ให้ดูสวยและพรีเมี่ยมมากขึ้นไปอีก เริ่มต้นกันที่หน้าจอกันก่อนเลย F11 Pro มาพร้อมกับหน้าจอแบบใหม่ไม่มีติ่งมากวนใจอีกแล้ว โดยจะใช้ชื่อหน้าจอแบบนี้ว่า Panoramic Screen แสดงผลได้เต็มตามากขึ้นในขนาด 6.5 นิ้ว สะใจกันสุด ๆ
ด้วยการตัดเอาติ่งบนหน้าจอออกไป ทำให้การแสดงผลหน้าจอเมื่อเทียบกับสัดส่วนตัวเครื่องนั้นมากถึง 90.9% เลยทีเดียว ในส่วนของชนิดหน้าจอของรุ่นนี้จะใช้เป็น LTPS-TFT ที่อัตราส่วนแบบ 19.5:9 พร้อมความละเอียดหน้าจอแบบ FHD+ การแสดงผลทำได้ดี มุมมองกว้างใช้ได้เลย
เหนือหน้าจอจะเห็นได้เลยว่าไม่มีติ่งมากวนใจแล้วจริง ๆ ตัวลำโพงสนทนาก็เป็นแถบที่ยาวขึ้นมาอีก ช่วยให้ใช้งานคุยโทรศัพท์ได้ดียิ่งขึ้นไปอีกครับ
ส่วนกล้องหน้าที่หายไปจากหน้าจอตรงนี้ หายไปไนกันล่ะ อ๊ะ…ก็ถูกซ่อนอยู่ในเครื่องนี่ไง เวลาเปิดกล้องหน้าตัวกล้องก็จะยกขึ้นขึ้นมาแบบนี้เลยล่ะครับ ตรงนี้ทาง OPPO ใช้ชื่อเรียกว่า Rising Camera นั่นเองครับ ตัวกล้องหน้าจะมีการออกแบบตัดมุมให้ดูหรูหราเพิ่มขึ้นไปอีก ไม่ใช่แค่สี่เหลี่ยมทื่อ ๆ ยกขึ้นมานะจ๊ะ ตรงนี้เขาบอกว่าได้แรงบันดาลใจมาจากอำพันด้วยจ้าา สวยนะ
ด้านล่างตัวเครื่องจะแอบเห็นว่ามีขอบหน้าจออยู่นิดหน่อย แต่ก็ถือว่าทำได้บางพอตัวแล้ว ล่ะครับ ปุ่มต่าง ๆ ก็เป็นบนจอหรือ On Screen Button เหมือนรุ่นก่อนหน้านี้นี่แหละเนาะ อ๊ะ…ลืมบอกไป ตัวเครื่องมีติดฟิล์มกันรอยมาให้แล้วตั้งแต่ในกล่องเลย ตัวฟิล์มชิดสุดขอบจอมาได้อย่างพอดี ไม่ต้องกังวลจ้า
บอดี้แน่นหนา จับกระชับมือ
ขนาดตัวเครื่องของ F11 Pro นั้นให้มาแบบเต็มไม้เต็มมือดีครับ ให้ความรู้สึกที่แน่นหนา จับกระชับมือได้เป็นอย่างดี ไม่ถึงกับใหญ่จนล้นเกินไป ด้วยขนาดตัวเครื่องที่ 161.3 x 76.1 x 8.8 มม. แต่น้ำหนักที่ได้แอบหนักไปนิดที่ราว ๆ 190 กรัม แต่ก็แลกมากับแบตเตอรี่ภายในที่เยอะขึ้นจุใจล่ะครับ น้ำหนักนี้
กรอบตัวเครื่องจะเป็นผิวสัมผัสแบบด้านให้ความรู้สึกที่ดีเวลาจับถือ เพราะไม่ลื่นมือจนเกินไป รวมถึงไม่เก็บคราบรอยนิ้วมือให้ดูเลอะง่ายด้วย
ตำแหน่งของปุ่มกดต่าง ๆ วางไว้ที่เดิมแบบที่ OPPO เคยใช้มา เริ่มด้วยปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงที่ด้านซ้ายมือ ปุ่ม Power อยู่ที่มุมขวาของตัวเครื่อง
รอบนี้ที่ปุ่ม Power มีการเพิ่มลูกเล่นด้วยการใส่สีเขียวตัดเข้าไปตรงกลางของปุ่มด้วย เพื่อให้ดูเด่นสะดุดตาขึ้นมากับกรอบเครื่องที่เป็นสีม่วงครับ
ช่องใส่ซิมก็จะอยู่ที่มุมขวามือนี้เช่นกัน โดยถาดซิมรอบนี้กลับมาใช้แบบไฮบริด คือต้องเลือกว่าจะใส่แบบ 2 ซิมหรือ 1 ซิม 1 เม็มแทน ไม่สามารถใส่พร้อมกัน 3 ตัวแบบรุ่นก่อนได้ครับ
พอร์ตการเชื่อมต่ออจะอยู่ที่ด้านล่างตัวเครื่อง ยังคงใช้เป็นพอร์ต micro-USB อยู่ ตรงนี้แอบน่าเสียดายอยู่หน่อย ๆ แต่พอร์ตนี้ก็รองรับระบบชาร์จไวอยู่นะ (ไว้อธิบายเพิ่มอีกทีจ้า) มีช่องหูฟัง 3.5 อยู่ที่มุมซ้ายนี้ และ…ลำโพงหลักของตัวเครื่องได้สลับมาอยู่ที่ฝั่งขวามือเรียบร้อย ตรงนี้ชอบมากเพราะรุ่นก่อน ๆ OPPO มักเลือกไว้ตรงมุมซ้าย บางครั้งเวลาใช้งานแนวนอนแล้วมักเอาอุ้งมือไปบังทำให้เสียงได้ออกมาไม่ชัดเจนนัก แต่รอบนี้แก้ไขแล้วนาจา
ด้านบนตัวเครื่องจะเห็นได้ชัดถึงตำแหน่งของกล้องหน้า Rising Camera ชัดเจน ดูจากทรงตรงนี้แล้วยิ่งชัดว่ามีการดีไซน์กล้องหน้าให้มีมิติมากขึ้นไม่ใช่ทื่อ ๆ อย่างที่บอกไป และมีเซ็นเซอร์อยู่ที่ด้านบนพร้อมไมโครโฟนสำหรับตัดเสียงรบกวนอยู่ด้วยที่ด้านบนนี้ครับ
ฝาหลังไล่เฉดสีแบบใหม่
พลิกกลับมาดูที่ด้านหลังกันบ้าง รอบที่แล้วว่าสีสวยแล้ว รอบนี้จัดเต็มขึ้นมาอีกขั้นกับฝาหลังไล่เฉดสีแบบ 3 มิติหรือ Triple Color Gradient ไล่สีไป 3 สีเลย โดยเป็นการไล่สีแบบแนวทแยงประกอบด้วยสี ม่วง ดำ และน้ำเงิน ให้อารมณ์แบบนีออนหน่อย ๆ และยังมีการเคลือบ nano printing ที่ด้านหลังเพื่อให้มีการสะท้อนที่สวยงามยิ่งขึ้นไปอีกด้วย
นอกจากนี้บน F11 Pro ยังมีการปรับเปลี่ยนโลโก้จากเดิมที่เป็นแนวตั้ง มาเป็นแนวนอนแล้วด้วย เวลาถือใช้งานก็จะเน้นให้เป็นแนวนอนมากขึ้น ฝาหลังออกแบบทุกอย่างได้อย่างสมมาตร เรียงกันไว้ตรงกลางทั้งหมด
จะเห็นว่าซ้ายขวานั้นเท่ากันเลย รวมไปถึงตัวกล้องหลังที่วางอยู่ตรงกลางไล่ลงมาอย่างสวยงาม ตัวกรอบเลนส์ก็มีการตัดขอบวงแหวนได้อย่างโดดเด่น ภายในมีไฟแฟลช LED และกล้องคู่ความละเอียด 48 + 5 ล้านพิกเซลอยู่ ถัดลงมาจะเป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือวางอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมครับ
ภาพรวมในเรื่องดีไซน์ของ OPPO F11 Pro นั้นต้องบอกเลยว่า สวยงามดูหรูหรามาก ๆ ด้านหน้าก็ได้หน้าจอเต็ม มีกล้องซ่อนได้ไปอีก หรือจะเป็นอย่างบอดี้ไล่เฉดสีอันหรูหราก็ชวนให้คิดไม่ได้ว่ารุ่นนี้เป็นรุ่นเรือธงราคาสูง ๆ รึเปล่ากันนะ เรื่องดีไซน์ต้องยอมรับเลย ว่าสอบผ่านสุด ๆ ครับ
OPPO F11 Pro ที่วางจำหน่ายในบ้านเราจะมีด้วยกัน 2 สีคือ Thunder Black สีที่รีวิวอยู่นี้ กับสี Aurora Green ทั้ง 2 สีสวยเด่นกันคนละโทน แต่ก็มีการไล่เฉดสีที่สวยสะดุดตาไม่แพ้กันเลยครับ
สเปค OPPO F11 Pro
- หน้าจอ LTPS-TFT 6.5 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (อัตราส่วน 19.5:9)
- ซีพียู MediaTek Helio P70 Octa-core 2.1 GHz
- จีพียู Mali-G72 MP3
- แรม 6GB
- ความจุ 64GB
- รองรับ micro-SD สูงสุด 256GB
- แบตเตอรี่ 4,000 mAh
- รองรับระบบชาร์จไว VOOC 3.0
- กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล f/2.0
- กล้องหลังคู่ 48 + 5 ล้านพิกเซล f/1.79 + f/2.4
- รองรับระบบสแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลังตัวเครื่อง
- รองรับระบบสแกนใบหน้า
- รองรับ 2 ซิม
- ขนาดตัวเครื่อง 161.3 x 76.1 x 8.8 มม.
- น้ำหนัก 190 กรัม
- รัน Android 9.0 Pie ครอบด้วย ColorOS 6.0 อ่านต่อ
Post a Comment